รูป การ์ตูน สต อ เบ อ รี่
ได้เห็นกันไปแล้วว่าการว่ายน้ำสามารถเบิร์นแคลอรีได้มากขนาดไหน แต่ถ้าอยากให้ร่างกายเบิร์นแคลอรีได้มากขึ้นก็มีวิธีนะจะบอกให้ แค่เพียงทำสิ่งเหล่านี้เพิ่มเติมลงไปในการว่ายน้ำรับรองเลยว่า แคลอรีในร่างกายถูกเผาผลาญได้เยอะสมใจแน่นอน 1. ว่ายอย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่เหนื่อยช้ากว่าวิธีออกกำลังกายแบบอื่น ๆ ดังนั้นถ้าอยากเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นก็แค่ว่ายน้ำอย่างต่อเนื่องและหยุดพักแค่ระยะสั้น ๆ เพียง 10 วินาที ก่อนเริ่มว่ายอีกครั้ง จะทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างต่อเนื่องค่ะ 2. ว่ายให้เร็วขึ้น ความเร็วของการว่ายน้ำสามารถเพิ่มการเผาผลาญให้ร่างกายได้ด้วย แต่ก็ไม่ต้องถึงขนาดเร่งความเร็วในการว่ายตลอดเวลานะคะ เพราะการว่ายน้ำเร็ว ๆ ติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ เช่น เกิดตะคริวที่ขาได้ ซึ่งถือว่าอันตรายเป็นอย่างมาก ที่ควรทำก็แค่เพียงเพิ่มความเร็วในการว่ายน้ำเป็นระยะ ๆ ช้า 1 รอบ เร็ว 1 รอบ สลับกันไป แล้วค่อย ๆ เพิ่มเป็น ช้า 2 รอบ เร็ว 2 รอบ แบบนี้จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดีเลย 3. สวมใส่อุปกรณ์เพิ่ม แม้ว่าการว่ายน้ำจะไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไร แต่ก็ยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับการว่ายน้ำอีกหลายอย่างที่จะช่วยให้คุณออกกำลังกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น อาทิ มือพายสำหรับว่ายน้ำ, ตีนกบ หรือแม้แต่หน้ากากสน็อกเกิล เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและเร่งความเร็วในการว่ายน้ำได้มากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญได้มากขึ้นนั่นเอง 4.
ไปว่ายน้ำกับญี่ปุ่นจะได้คุยกันรู้เรื่อง จะได้แข่งกันถูก 泳ぎ方の4種類 ท่าว่ายน้ำ 4 ท่าหลักในภาษาญี่ปุ่น 1. クロール kuro-ru ฟรีสไตล์ (มาจากภาษาอังกฤษCrawl) 2. 平泳ぎ hiraoyogi ท่ากบ (ว่ายแบบแหวกๆ เปิดๆ) 3. バタフライ batafuraiท่าผีเสื้อ (ตรงตัว butterfly ผีเสื้อ) 4. 背泳ぎ seoyogi ท่ากรรเชียง (ว่ายกลับหลังหัน) 泳ぎます oyogimasu ว่ายน้ำ (กริยา) 水泳 suiei การว่ายน้ำ(คำนาม) #น็อตโตะเซนเซ #ว่ายน้ำในภาษาญี่ปุ่น #คำศัพท์เกี่ยวกับการว่ายน้ำในภาษาญี่ปุ่น #ท่าว่ายน้ำในภาษาญี่ปุ่น
ดันน้ำจนกระทั่งแขนของคุณตึงพอดี สามารถตรวจสอบได้ โดยมือของคุณจะผ่านไปถึงต้นขา 5. ยกแขนขึ้น โดยงอข้อศอก แล้ววาดแขนมาด้านหน้า วางมือลงน้ำ กดศอกแล้วยืดแขนออกไป ข้อควรจำ คุณต้องดันน้ำไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว เมื่อคุณจะวางแขนลงน้ำเพื่อว่ายต่อไป พยายามอย่าให้แขนฟาดน้ำ ให้ลากศอกและมือแทงลงน้ำไปด้านหน้าอย่างนิ่มนวล เมื่อมือคุณลงน้ำแล้ว อย่าให้มือชี้ลงไปที่พื้นสระ จงบังคับมือและแขนให้ชี้ไปยังเป้าหมาย คือ ด้านหน้าของคุณ โดยการยืดแขนออกไปขณะที่มือลงน้ำ ไม่ใช่จิ้มมือลงไปในน้ำ 2. BACKSTROKE ท่ากรรเชียง หากคุณว่ายท่าฟรีสไตล์ได้ การว่ายท่ากรรเชียงก็ไม่ยากสำหรับคุณ เพราะท่ากรรเชียงก็เหมือนกับท่าฟรีสไตล์กลับด้านกันนั่นเอง ดังนั้นคุณสามารถว่ายกรรเชียงโดยดัดแปลงหลักการของฟรีสไตล์ได้ ถ้าคุณคิดจะว่ายเล่นคำพูดที่บอกว่าหน้าอยู่เหนือน้ำตลอดก็เป็นคำพูดที่ถูก แต่ในการแข่งขันแล้วคุณคิดเช่นนั้นหรือเปล่าเอ่ย?
เมื่อคุณยกแขนขึ้นมาจากน้ำ คุณต้องไม่งอข้อศอก และวางแขนไปด้านหลังโดยไม่ฟาดน้ำ โดยการวางแขนนั้นให้คุณหันฝ่ามือเอานิ้วก้อยลงก่อน 6. เริ่มทำข้อ 1. กับแขนอีกข้าง ข้อควรจำ 1. ในการวางแขนลงน้ำเพื่อจะดึงน้ำต่อไป คุณต้องให้นิ้วก้อยลงน้ำก่อนเสมอ 2. คุณไม่ต้องกังวลเรื่องที่น้ำจะเข้าหน้าคุณ เพราะว่าถ้าคุณว่ายถูกต้อง น้ำก็เข้าหน้าคุณอยู่แล้ว ให้คุณแก้ไขโดยกำหนดจังหวะหายใจ เช่น ยกแขนขวาขึ้นหายใจเข้า ยกแขนซ้ายหายใจออก เป็นต้น 3. ให้คุณเก็บคางเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ก้มจนหูพ้นน้ำ และไม่เงยจนกระทั่งหน้าจมลงไปในน้ำ 4.
หรือก็คือใช้แขนและมือพายไปมาให้ลอยตัวอยู่ได้ เริ่มจากเหยียดแขนออกไปด้านข้าง จมอยู่ในน้ำ จากนั้นหันฝ่ามือเข้าหากัน แล้วหุบแขนเข้ามาจนฝ่ามือแทบแตะกัน ถึงจุดนี้ให้หันฝ่ามือออก แล้วขยับแขนออกไป กลับสู่ท่าเริ่มต้น พยายามพายหรือวาดมือวาดแขนไปมาต่อเนื่องยาวๆ ข้อดี: เป็นอีกท่าที่ใช้แต่แขนพาย ขาว่าง แนะนำให้ใช้เทคนิคเตะขาอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เตะขารัวๆ ข้อเสีย: เป็นท่าที่ร่างกายจะจมอยู่ในน้ำตลอดเวลา (เว้นช่วงหัว) 5 ท่าหมุนเท้า. อีกชื่อคือท่า eggbeater หรือตะกร้อตีไข่ เป็นท่าวาดเท้าเป็นวงกลม ข้างหนึ่งหมุนตามเข็มนาฬิกา อีกข้างทวนเข็ม เป็นท่าที่ยากมากที่จะทำได้ดีมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าทำได้จะเซฟแรงได้เยอะเลย ข้อดี: เป็นท่าประหยัดพลังงานให้ร่างกายได้ดีถ้าฝึกทำจนถูกต้อง ข้อเสีย: เป็นท่ายากของจริง หลายคนที่จำเป็นต้องใช้ท่านี้ก็ต้องฝึกกันนานทีเดียวกว่าจะทำได้ 6 ท่าเฮลิคอปเตอร์จิ๋ว.
จังหวะสุดท้ายของการดันน้ำ ให้คุณกดมือลงอย่างแรง จนแขนของคุณตึง 5. เมื่อคุณยกแขนขึ้นมาจากน้ำ คุณต้องไม่งอข้อศอก และวางแขนไปด้านหลังโดยไม่ฟาดน้ำ โดยการวางแขนนั้นให้คุณหันฝ่ามือเอานิ้วก้อยลงก่อน 6. เริ่มทำข้อ 1. กับแขนอีกข้าง ข้อควรจำ 1. ในการวางแขนลงน้ำเพื่อจะดึงน้ำต่อไป คุณต้องให้นิ้วก้อยลงน้ำก่อนเสมอ 2. คุณไม่ต้องกังวลเรื่องที่น้ำจะเข้าหน้าคุณ เพราะว่าถ้าคุณว่ายถูกต้อง น้ำก็เข้าหน้าคุณอยู่แล้ว ให้คุณแก้ไขโดยกำหนดจังหวะหายใจ เช่น ยกแขนขวาขึ้นหายใจเข้า ยกแขนซ้ายหายใจออก เป็นต้น 3. ให้คุณเก็บคางเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ก้มจนหูพ้นน้ำ และไม่เงยจนกระทั่งหน้าจมลงไปในน้ำ 4. ยืดตัวเอาไว้ อย่างอตัวเป็นกุ้งเด็ดขาด
จังหวะสุดท้ายของการดันน้ำ ให้คุณกดมือลงอย่างแรง จนแขนของคุณตึง 5. เมื่อคุณยกแขนขึ้นมาจากน้ำ คุณต้องไม่งอข้อศอก และวางแขนไปด้านหลังโดยไม่ฟาดน้ำ โดยการวางแขนนั้นให้คุณหันฝ่ามือเอานิ้วก้อยลงก่อน 6. เริ่มทำข้อ 1. กับแขนอีกข้าง ข้อควรจำ 1. ในการวางแขนลงน้ำเพื่อจะดึงน้ำต่อไป คุณต้องให้นิ้วก้อยลงน้ำก่อนเสมอ 2. คุณไม่ต้องกังวลเรื่องที่น้ำจะเข้าหน้าคุณ เพราะว่าถ้าคุณว่ายถูกต้อง น้ำก็เข้าหน้าคุณอยู่แล้ว ให้คุณแก้ไขโดยกำหนดจังหวะหายใจ เช่น ยกแขนขวาขึ้นหายใจเข้า ยกแขนซ้ายหายใจออก เป็นต้น 3. ให้คุณเก็บคางเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ก้มจนหูพ้นน้ำ และไม่เงยจนกระทั่งหน้าจมลงไปในน้ำ 4.