รูป การ์ตูน สต อ เบ อ รี่
ส่วนแบ่งการตลาดที่เป็นผลมาจากการพัฒนา จากการลงทุนในการพัฒนาในเรื่องต่าง ๆ ของหัวเหว่ยจนมีการเพิ่มมูลค่าและความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ปัจจุบันหัวเหว่ยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยหัวเหว่ยในระดับโลกมียอดขายรวมมากกว่า 73 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 20. 6% รายได้เติบโตขึ้น 36. 2% ส่วนหัวเหว่ยในประเทศไทยขายเครื่องได้มากกว่า 8 เท่าตัว หรือเพิ่มขึ้น 5 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 14. สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ขึ้นมาตอบสนองตลาด ถึงแม้ที่ผ่านมาหัวเหว่ยจะเจออุปสรรคบ้าง แต่ด้วยความที่มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีและการดีไซน์ที่เป็นแก่นของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทำให้หัวเหว่ยไม่เคยหยุดนิ่งมุ่งมั่นสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ขึ้นมาตอบสนองตลาดได้เรื่อย ๆ ซึ่งก็ต้องมาคอยดูกันว่าช่วงครึ่งหลังของปี 2017 หัวเหว่ยจะมีผลิตภัณฑ์อะไรออกมาเขย่าตลาดอีกครั้ง 15.
แก้ไขจุดอ่อนของผลิตภัณฑ์ ใคร ๆ ก็ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ที่สวยงามด้วยกันทั้งสิ้น และผลิตภัณฑ์ที่จะสวยงามได้นั้น ก็ต้องมาจากการใส่ใจในการออกแบบ ซึ่งจุดอ่อนของสมาร์ทโฟนหลายยี่ห้อนั้น มีการออกแบบที่ตัวเครื่องหรือการดีไซน์ที่ไม่น่าจดจำ หรือบางทีลอกแบบดีไซน์มาจากผู้ผลิตรายอื่นมา แต่สมาร์ทโฟนของหัวเหว่ยไม่ได้เป็นเช่นนั้น กลับมีการใส่ใจในการออกแบบ โดยเฉพาะกลุ่มพรีเมี่ยมในซีรี่ส์ P และ Mate ที่ใครเห็นก็สะดุดตาตั้งแต่แรกพบ 7. ใส่ใจในตัวผลิตภัณฑ์อย่างยิ่งยวด ทุกมิติของผลิตภัณฑ์หัวเหว่ยให้ความใส่ใจอย่างยิ่งยวด ความสำเร็จของงานดีไซน์ในตัวเครื่องนั้นผสมผสานกันระหว่างรูปลักษณ์ที่ดูดี มีพื้นผิวพิเศษสีสันแปลกตา เมื่อจับดูที่ตัวเครื่องจะรู้สึกถึงความหนักแน่น ขอบมุมต่าง ๆ ถูกเจียร์ให้จับถือได้สบาย อีกทั้งยังมีการทดสอบความทนทานของตัวผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมอีกด้วย ตลอดจนการทดสอบการตกกระแทก การบิดตัว ความทนทานต่อแสงแดด ต่ออุณหภูมิ ต่อการสึกหรอ ต่อละอองน้ำเค็มและรายละเอียดอื่น ๆ อีกมากมาย 8. ให้ความสำคัญกับเรื่องการค้นคว้าวิจัย ที่หัวเหว่ยผงาดได้อย่างสง่างามนี้ สิ่งหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยนั่นก็คือ การให้ความสำคัญกับเรื่องของการค้นคว้าวิจัย ซึ่งหัวเหว่ยใช้งบลงทุนวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์กว่า 10% ของยอดขาย เพื่อทำการวิจัยเทคโนโลยีและงานดีไซน์ใหม่ ๆ ซึ่งตลอด 10 ปีที่ผ่านมาหัวเหว่ยใช้งบลงทุนในด้านนี้ไปกว่า 45, 000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีศูนย์การวิจัยตั้งอยู่ทั่วโลก จำนวน 15 ศูนย์ด้วยกัน เช่น ศูนย์วิจัยกล้องอยู่ที่เยอรมัน ศูนย์ดีไซน์อยู่ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นต้น 9.
ตั้งศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนา การตั้งศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาย่อมทำให้องค์กรเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งจากความสำเร็จของ Huawei P9 กับ Leica นี้ จึงได้ร่วมกันตั้งศูนย์วิจัย The Max Berek Innovation ขึ้นที่ประเทศเยอรมนี เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับการถ่ายภาพสำหรับสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ รวมไปถึงการพัฒนาเพื่อการรองรับกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง virtual reality และ argmented reality อีกด้วย 4. ขยายความร่วมมืออีกหลายแบรนด์ดัง นอกจากการร่วมมือกับ Leica แล้ว Huawei ไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น หัวเหว่ยยังร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกอีกหลาย แบรนด์ อาทิ Harman/Kardon เพื่อพัฒนาในเรื่องของระบบเสียง, Pantone ช่วยในเรื่องของสีสันที่มีความแปลกตาของสมาร์ทโฟน, Porsche design เพื่อร่วมกันออกแบบสมาร์ทโฟนที่เจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยม 5. สร้างการรับรู้ของลูกค้า จากกลยุทธ์ที่หัวเหว่ยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกนั้น ทำให้หัวเหว่ยมีความโดดเด่นในเรื่องของผลิตภัณฑ์และที่สำคัญคือเป็นการสร้างการรับรู้ของลูกค้า ชื่อของหัวเหว่ยจึงติดอันดับแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลจากสถาบันระดับโลกหลายแห่ง อาทิ ในปี 2016 หัวเหว่ยติดอันดับที่ 72 ใน 100 Best Global Brands เป็นต้น 6.
ศ. 1987 บริษัทหัวเหว่ยทำธุรกิจซึ่งแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเครือข่ายโทรคมนาคม กลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับภาคธุรกิจและองค์กร และกลุ่มอุปกรณ์สื่อสารสำหรับผู้บริโภค มีพนักงานกว่า 110, 000 คนทั่วโลก และยังมีศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ในปี ค. 2010 หัวเหว่ย ได้ถูกจัดอันดับให้อยู่ใน 500 บริษัทใหญ่ของนิตยสารฟอร์จูน มียอดขาย 21. 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีกำไรสุทธิ 2. 67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ… เห็นยอดตัวเลขแล้วต้องบอกว่าหัวเหว่ยไม่ธรรมดาจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นเรามาดู 15 วิทยายุทธมังกรผงาดฟ้าอย่าง Huewie (หัวเหว่ย) กันครับ 1. ร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลก นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ชัดเจนมากของหัวเหว่ย คือการได้ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์กับแบรนด์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลก อาทิ การร่วมงานกับ Leica แบรนด์กล้องระดับตำนานของเยอรมัน สร้างสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ไลก้าร่วมออกแบบมีชื่อรุ่นว่า Huawei P9 ที่สามารถสร้างกระแสให้หัวเหว่ยว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปง่ายและสวยไปทั่วโลกออนไลน์ 2. ของดีราคาไม่แพง ความสำเร็จของ Huawei P9 นั้นส่งผลดีในหลายด้าน ทั้งในเรื่องของการเสริมภาพลักษณ์ของหัวเหว่ยที่สามารถสร้างสมาร์ทโฟนที่ดีในราคาไม่แพง แน่นอนว่าของดีราคาไม่แพงย่อมเป็นที่นิยมของตลาด 3.
ดู ศูนย์บริการ หัวเหว่ย, บางกอกน้อย บนแผนที่ ทิศทางไปยัง ศูนย์บริการ หัวเหว่ย (บางกอกน้อย) ด้วยขนส่งสาธารณะ สายต่อไปนี้ มีเส้นทางที่ผ่านใกล้ๆ ศูนย์บริการ หัวเหว่ย วิธีการเดินทางไป ศูนย์บริการ หัวเหว่ย โดย รถบัส?
เทรนด์ใหม่ที่น่าจับตามอง หัวเหว่ยไม่เคยหยุดการพัฒนา ซึ่งเทรนด์ใหม่ที่น่าจับตามองตอนนี้ เห็นจะเป็นเรื่องของ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ที่หัวเหว่ยเองก็เปรย ๆ มาว่ากำลังพัฒนาเทคโนโลยีในด้านนี้ของตัวเองอยู่ เพื่อตอบรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของโลกที่มีคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยเหลือชีวิตประจำวันของมนุษย์ให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น 10. Huawei มีเทคโนโลยีหน่วยประมวลผลของตัวเอง สิ่งที่น่ารู้อย่างหนึ่งคือ หัวเหว่ยเป็นเจ้าของบริษัทผลิตและออกแบบชิปประมวลผลที่ใหญ่ที่สุดในจีน อย่าง HiSilicon ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมาก ทั้งชิปของระบบกล้องวงจรปิด ชิปประมวลผลของสมาร์ททีวี รวมถึงชิปสำหรับอุปกรณ์ IoT ที่ทำงานร่วมกับ AI นอกจากนี้ยังมีชิปดาวเด่นนั่นก็คือตระกูล Kirin สำหรับสมาร์ทโฟนนั่นเอง 11.