รูป การ์ตูน สต อ เบ อ รี่
การหักภาษี ณ ที่จ่ายคือการที่ผู้จ่ายเงินได้หักเงินของผู้รับเงินไว้ทันทีที่จ่ายเงิน ตามอัตราที่กำหนดและนำเงินที่หักไว้นำส่งกรมสรรพากร ซึ่งผู้รับสามารถนำยอดเงินที่หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้นี้ไปรวมกับภาษีที่จ่ายตอนปลายปี ถ้าคำนวณแล้วจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายเกินต้องชำระเงินเพิ่ม แต่ถ้าจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายน้อยกว่าก็สามารถทำเรื่องขอคืนภาษีได้ ภ. ง. ด. 3, ภ. 53 คืออะไร ภ. 3 เป็นแบบยื่นรายการภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยผู้รับเงินซึ่งถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นบุคคลธรรมดาที่มีหน้าที่ในการเสียภาษีเงินได้ ภ. 53 เป็นแบบยื่นรายการภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยผู้รับเงินซึ่งถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นนิติบุคคลที่มีหน้าที่ในการเสียภาษีเงินได้ ประเภทของเงินได้ เงินได้ที่ยื่นแบบภ. 3 ได้แก่ 1. เงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน 2. เงินได้จากการประกอบวิชาชีพอิสระ ได้แก่ กฎหมาย การประกอบโรคศิลปะ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี ประณีตศิลปกรรม 3. เงินได้จากการรับเหมา โดยผู้รับเหมาเป็นผู้ลงทุนในการจัดหาสิ่งของเพิ่มเติมนอกจากเครื่องมือที่มีอยู่ 4. เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง เงินได้ที่ยื่นแบบภ. 53 1. เงินได้จากค่าจ้างทำของ ค่าโฆษณา ค่านายหน้า การให้เช่าทรัพย์สินเช่น ที่ดิน, อาคาร, เครื่องจักร, รถยนต์ เป็นต้น การประกอบวิชาชีพอิสระ ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร เงินปันผล เป็นต้น 2.
ถ้าผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย มิได้หักและนำส่ง หรือได้หักและนำเงินส่งแล้วแต่ไม่ครบจำนวนที่ถูกต้อง ผู้จ่ายเงินต้องรับผิดร่วมกับผู้มีเงินได้โดยต้องชำระตามจำนวนเงินภาษีที่ไม่ได้หัก และนำส่งหรือตามจำนวนที่ขาดไปแล้วแต่กรณี ในกรณีที่ผู้จ่ายเงินได้หักภาษีไว้แล้วแต่ไม่ได้นำส่ง ผู้จ่ายเงินต้องรับผิดชอบชำระภาษีจำนวนนั้นทั้งหมด 2. ถ้าผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ไม่นำเงินภาษีที่ตนมีหน้าที่หักนำส่งภายในกำหนดเวลาจะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1. 5 ต่อเดือน หรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องเสีย (เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน) นับแต่วันพ้นกำหนดเวลายื่นแบบฯ จนถึงวันยื่นแบบฯและนำส่งภาษี ผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย หากไม่ยื่นแบบฯนี้ภายในกำหนดเวลา เว้นแต่จะแสดงว่าได้มีเหตุสุดวิสัย ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2, 000 บาท 3. ผู้ใดโดยเจตนาไม่ยื่นรายการที่ต้องยื่น เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200, 000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ PEAK โปรแกรมบัญชีที่ช่วยให้งานบัญชีภาษีง่ายสำหรับทุกคน มีระบบจัดการธุรกิจแบบออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา ช่วยคุณจัดการเรื่องภาษีอย่างเป็นระบบ สมัครใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี คลิก หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง inbox ของ Facebook PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์
ขั้นตอนดำเนินการกับกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ เป็นการจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมที่ตั้งสำนักงานของบริษัท ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 กรณีคือ (ก1) กรณีที่ตั้งที่อยู่ใหม่อยู่ในจังหวัดเดียวกันกับที่อยู่เดิม ตามกฎหมายไม่ได้กำหนดว่าต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือที่ประชุมคณะกรรมการ โดยมีขั้นตอนในจัดทำคำขอจดทะเบียนและยื่นเอกสารขอจดทะเบียน หลังจากนั้นนายทะเบียนจึงจะรับจดทะเบียน เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นขอจดทะเบียนมีดังนี้ 1. คำขอจดทะเบียนบริษัท (แบบบอจ. 1) 2. แบบคำรับรองการจดทะเบียนบริษัทจำกัด 3. รายการจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติม และ/หรือ มติพิเศษ (แบบ บอจ. 4) 4. แผนที่ตั้งสำนักงานแห่งใหม่และสถานที่สำคัญบริเวณใกล้เคียง 5. สำเนาบัตรประจำตัวของกรรมการที่ลงชื่อในคำขอจดทะเบียน 6. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ(ถ้ามี) ได้แก่ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ผู้ทำบัญชี เป็นต้น 7. หนังสือมอบอำนาจ (กรณีผู้ขอจดทะเบียนไม่สามารถยื่นขอจดทะเบียนได้ด้วยตนเอง โดยปิดอากรแสตมป์ราคา 10 บาท (ก2) กรณีที่ตั้งที่อยู่ใหม่ย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น ตามกฎหมายกำหนดว่าให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อให้มีมติพิเศษ โดยออกหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้นทางไปรษณีย์ตอบรับและลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ท้องที่อย่างน้อย 1 คราว ก่อนวันประชุมไม่น้อยกว่า 14 วัน โดยต้องระบุวาระการประชุมให้แก้ไขเพิ่มเติมว่าบริษัทจะย้ายสำนักงานไปอยู่จังหวัดใดในหนังสือบริคณห์สนธิ สำหรับเอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นจดทะเบียนเหมือนกันกับกรณี(ก) แต่เพิ่มหนังสิอบริคณห์สนธิ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ทั้ง 2 กรณีดังกล่าว ถ้าสำนักงานเดิมอยู่ในเขต กทม.
9) ได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์แล้ว หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศหรือที่ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161 ไม่พลาดข่าวสำคัญ เจาะลึกทุกประเด็น เพิ่มเราเป็นเพื่อนทาง @prachachat
จ้างทำของ 2. กู้ยืมเงินหรือการตกลงให้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคาร 3. ใบมอบอำนาจ 4. ใบมอบฉันทะสำหรับให้ลงมติในที่ประชุมของบริษัท 5. ค้ำประกัน สำหรับการยื่นขอเสียอากรเป็นตัวเงิน ตาม "แบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์" (อ. 9) โดยผ่านทางเว็บไซต์กรมสรรพากร ที่ > e – Filing > ระบบขอเสียอากรแสตมป์ เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ยังสามารถยื่นผ่านทาง Application Programming Interface (API) ของกรมสรรพากร ซึ่งระบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์จะเปิดให้บริการเฉพาะการขอเสียอากรฉบับปกติภายในกำหนดเวลา หากต้องการขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารที่เกินกำหนดเวลาหรือยื่นแบบเพิ่มเติม ต้องยื่นด้วยแบบ อ. 4, อ. 4ข ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา โฆษกกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อผู้ยื่นขอเสียอากรด้วย e – Stamp Duty โอนเงินค่าอากรเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของกรมสรรพากรแล้ว เมื่อกรมสรรพากรได้ออกรหัสรับรองการเสียอากรแสตมป์พร้อมใบเสร็จรับเงินตามจำนวนเงินค่าอากร และเจ้าหน้าที่รับชำระเงินได้ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้เสียอากรแล้ว ถือว่าตราสารตามรายการข้อมูลในแบบขอเสียอากรแสตป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ (อ.
เงินได้จากมาตรา 40 (8) เฉพาะกรณีที่เป็นการจ่ายเงินได้จากการให้บริการอื่นๆที่นอกเหนือจากข้อ (1) 3. เงินได้จากการประกันวินาศภัยเฉพาะกรณีที่จ่ายให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนที่เป็นนิติบุคคล ซึ่งประกอบกิจการวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัยในประเทศไทย 4. เงินได้จากการขนส่งซึ่งไม่รวมการจ่ายค่าโดยสารสำหรับการขนส่งสาธารณะ ผู้มีหน้าที่หักภาษีตัองทำอย่างไรบ้าง 1. ขอข้อมูลผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ได้แก่ ชื่อที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 2. ดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่ายทุกครั้งเมื่อมีการจ่ายเงินได้ในอัตราที่กำหนดตามประมวลรัษฎากร 3. จัดทำหนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่ายให้แก่ผู้ที่ถูกหักภาษีทุกครั้งที่ทำการหักภาษี ณ ที่จ่าย 4. ผู้หักภาษี ณ ที่จ่ายยื่นแบบภ. 3 หรือ ภ. 53 พร้อมนำส่งภาษีที่หักไว้ภายใน 7 วันนับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงิน การยื่นแบบภาษีหัก ณ ที่จ่าย มี 2 วิธีด้วยกันดังนี้ 1. การยื่นแบบด้วยตนเอง ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่หรือสาขาในท้องที่ที่ผู้หักภาษี ณ ที่จ่ายมีสำนักงานตั้งอยู่ 2. การยื่นแบบและชำระภาษีทางออนไลน์ โดยเบื้องต้นผู้นำส่งต้องสมัครสมาชิกกับทาง เว็บไซต์กรมสรรพากร ก่อน โดยการยื่นแบบจะได้รับสิทธิพิเศษให้ขยายเวลายื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีออกไปอีก 8 วัน ถ้าไม่ยื่นแบบจะมีบทลงโทษอย่างไร 1.
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 RD Intelligence Center 1161
เมื่อกิจการบริษัทจดทะเบียนดำเนินธุรกิจมาในระยะหนึ่ง มีความประสงค์ต้องการย้ายที่อยู่ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงย่อมต้องมีขั้นตอนในการติดต่อหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องและจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนเพื่อดำเนินการย้ายที่อยู่สถานประกอบการไม่ว่าจะเป็นการย้ายที่อยู่ในเขตหรือจังหวัดเดียวกันหรือย้ายข้ามไปยังเขตอื่นจังหวัดอื่น เงื่อนไขการย้ายที่อยู่บริษัทจดทะเบียน มีหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในการแจ้งย้ายที่อยู่ของบริษัทจดทะเบียนได้แก่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และกรมสรรพากร โดยมีเงื่อนไขในการพิจารณาดังนี้ 1. ในกรณีกิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มต้องไปดำเนินการแจ้งย้ายที่อยู่กับกรมสรรพากร เป็นเวลา ไม่น้อยกว่า 15 วัน จากนั้นจึงดำเนินการแจ้งย้ายที่อยู่กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 2. กรณีกิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ถ้าย้ายข้ามเขตพื้นที่หรือย้ายข้ามจังหวัด ให้แจ้งย้ายออกกับสรรพกรพื้นที่ที่อยู่เดิมและแจ้งย้ายเข้ากับสรรพากรพื้นที่ที่อยู่ใหม่ 3. ส่วนกิจการที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถแจ้งย้ายที่อยู่บริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยไม่ต้องไปดำเนินการที่กรมสรรพากร เพราะข้อมูลที่อยู่ที่เปลี่ยนแปลงจะถูกลิงค์ไปยังกรมสรรพากรหลังจากที่ผู้ประกอบการดำเนินการแจ้งย้ายที่อยู่ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว ขั้นตอนการย้ายที่อยู่บริษัทจดทะเบียน สำหรับขั้นตอนในการดำเนินการย้ายที่อยู่บริษัทจดทะเบียน มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ก.
ให้ยื่นจดทะเบียนที่ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จังหวัดนนทบุรี หรือสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าทั้ง 6 เขตในกทม. แต่ถ้าสำนักงานเดิมอยู่ในจังหวัดอื่นนอกเขตกทม. ให้ยื่นจดทะเบียนที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด นอกจากนี้ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนได้ทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เว็บไซต์ ข. ขั้นตอนการดำเนินการกับกรมสรรพากร ผู้ประกอบการต้องจัดเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ (ข1) แบบคำขอแจ้งเปลี่ยนแปลงการจดทะเบียน (ภ. พ. 09) จำนวน 3 ฉบับ (ข2) ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ. 20) เดิม (ข3) หลักฐานแสดงที่ตั้งสถานประกอบการแห่งใหม่ ได้แก่ (ข3. 1) สัญญาเช่าอาคารอันเป็นที่ตั้งสถานประกอบการปิดอากรแสตมป์ (กรณีเช่า) หรือหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่เป็นสถานประกอบการ(กรณีเจ้าของให้ใช้โดยไม่ได้รับค่าตอบแทน) (ข3. 2) สำเนาทะเบียนบ้านที่ตั้งสถานประกอบการ (ข3. 3) สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่า/ผู้ยินยอม ได้แก่สำเนาสัญญาซื้อขาย สำเนาโฉนดที่ดิน คำขอเลขที่บ้าน เป็นต้น (ข3.
กรมสรรพากร ยกระดับบริการจัดทำระบบการชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ อ. ส. 9 หรือ e-Stamp Duty รองรับการทำธุรกรรม 5 ตราสารอย่างเต็มรูปแบบ เพิ่มความสะดวก ลดขั้นตอนการจัดทำเอกสารด้วยกระดาษ ประหยัดการเดินทางให้กับผู้ประกอบธุรกิจ นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้ผลักดันกระบวนการทำงานโดยใช้ Digital มากขึ้น โดยเปิดกว้างการให้บริการผ่านระบบ Open API เพื่อให้เข้าถึงบริการที่รวดเร็วและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง ระบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ อ.